ทั้งหมด 30 ข้อ
ข้อใดคือเปอร์เซนต์แสดงส่วนของสีเหลือง
คำตอบคือข้อ ข สีเหลืองจะมีทั้งหมด 25 ช่องจากช่องทั้งหมด 100 ช่อง
ข้อใดคือเปอร์เซนต์แสดงส่วนของสีเหลือง
คำตอบคือข้อ ง สีเหลืองจะมีทั้งหมด 90 ช่องจากช่องทั้งหมด 100 ช่อง
ข้อใดคือรูปเศษส่วนของ ร้อยละ 75
ข้อใดคือรูปร้อยละหรือเปอร์เซนต์ $\dfrac{36}{100}$
ข้อใดมีค่าเท่ากับร้อยละ 44
คำตอบคือข้อ จ.
$\dfrac{44}{100}=\dfrac{44\div4}{100\div4}=\dfrac{11}{25}$
$\dfrac{44}{100}=0.44$
$40 \% $ ของ $50$ มีค่าเท่ากับข้อใด
คำตอบคือข้อ ข
$\dfrac{40}{100}\times 50 =\dfrac{40\times 50}{100}=\dfrac{2,000}{100}=20$
$65 \%$ ของ $80$ มีค่าเท่ากับข้อใด
คำตอบคือข้อ ค.
$\dfrac{65}{100}\times 80 =\dfrac{65\times 80}{100}=\dfrac{5,200}{100}=52$
ฟ้าสอบได้คะแนนวิชาคณิตศาสตร์ 30 จาก คะแนนเต็ม 50 ฟ้าได้วิชาคณิตศาสตร์ร้อยละเท่าใด
คำตอบคือข้อ ข.
ถ้าได้คะแนน 50 คิดเป็นร้อยละ 100
ถ้าได้คะแนน 30 คิดเป็นร้อยละ $\dfrac{30\times100}{50}= 60$
ในชั้นเรียน มีนักเรียนจำนวน 50 คน เลี้ยงสุนัข 20 เปอร์เซนต์ มีนักเรียนที่เลี้ยงสุนัขทั้งหมดกี่คน
คำตอบคือข้อ ก.
มีนักเรียนเลี้ยงสุนัขทั้งหมด $\dfrac{20}{100}\times 50 = 10$
ปลื้มมีเงินเดือน 15,000 บาท เขาจ่ายค่าเช่าบ้านเป็นเงิน3,000 บาท ค่าเช่าบ้านคิดเป็นกี่เปอร์เซนต์ของเงินเดือน
คำตอบคือ ข้อ ค.
จ่ายเงิน 15,000 บาท คิดเป็น 100 %
จ่ายเงิน 3,000 บาท คิดเป็น $\dfrac{3,000\times 100}{15,000} = 20$ %
ข้อใดมีค่ามากที่สุด
คำตอบคือข้อ ก.
50 % ของ 75 มีค่าเท่ากับ $\dfrac{50}{100}\times 75 = 37.5$
30 % ของ 120 มีค่าเท่ากับ $\dfrac{30}{100}\times 120 = 36$
68 % ของ 40 มีค่าเท่ากับ $\dfrac{68}{100}\times 40 = 27.2$
25 % ของ 130 มีค่าเท่ากับ $\dfrac{25}{100}\times 130 = 32.5$
$a$ เป็นผลบวกของจำนวนเต็มบวกที่เป็นจำนวนคู่ 5 จำนวนแรกที่มากกว่า 0, $b$ เป็นผลบวกของจำนวนเต็มบวกที่เป็นจำนวนคี่ 6 จำนวนแรกที่มากกว่า 0, $x$ คือ 72 เปอร์เซนต์ของ 25, ข้อใดต่อไปนี้คือ ค่าของ $\dfrac{a\times b}{x}$(สสวทป. 3)
คำตอบคือข้อ ค.
$a$ เป็นผลบวกของจำนวนคู่ 5 จำนวนแรกที่มากกว่า 0 คือ 2+4+6+8+10 = 30
$b$ เป็นผลบวกของจำนวนคี่ 6 จำนวนแรกที่มากกว่า 0 คือ 1+3+5+7+9+11 = 36
$x$ คือ 72 % ของ 25 ดังนั้น $x =\dfrac{72}{100}\times 25 = 18 $
ดังนั้น $\dfrac{a\times b}{x}=\dfrac{30\times 36}{18}=60$
ถ้า $x$ คือ 12 เปอร์เซนต์ของ 550
$y$ คือ 60 เปอร์เซนต์ของ 90
$z$ คือ 5 เปอร์เซนต์ของ 1500
ข้อใดต่อไปนี้คือ การเรียงลำดับจากน้อยไปมาก
คำตอบคือ ข้อ ข.
$x$ คือ $\dfrac{12}{100}\times 550 = 66$
$y$ คือ $\dfrac{60}{100}\times 90 = 54$
$z$ คือ $\dfrac{5}{100}\times1500 = 75$
ดังนั้น $y$ < $x$ < $z$
น้ำฝนสอบสี่วิชาได้คะแนนวิชาละ 82, 90, 86, 83 โดยทุกวิชามีคะแนนเต็ม 100 น้ำฝนต้องทำคะแนนวิชาที่ห้ากี่คะแนนเพื่อให้ได้คะแนนเฉลี่ย 85 เปอร์เซนต์
คำตอบคือข้อ ง.
กำหนดให้ $x$ คือคะแนนของวิชาที่ห้า ทุกวิชามีคะแนนเต็มร้อย ดังนั้นคะแนนของแต่ละวิชาเทียบกับ 100 จึงเป็นเปอร์เซนต์โดยตัวมันเอง ดังนั้นสามารถเทียบกันได้โดยตรง
$\dfrac{82+90+86+83+x}{5}=85$
$\dfrac{(341 + x )}{5}\times5= 85\times 5$
$341 + x = 425$
$341 + x - 341 = 425-341$
$x=84$
โรงเรียนแห่งหนึ่งมีนักเรียน 1,800 คน มีนักเรียนสอบไม่ผ่าน 4 % ของนักเรียนทั้งหมด นักเรียนที่สอบผ่านกี่คน
คำตอบคือข้อ ข.
นักเรียนที่สอบผ่านคือ 100-4 = 96
นักเรียนที่สอบผ่าน $\dfrac{96}{100}\times1,800=1,728 $ คน
โรงเรียนแห่งหนึ่งมีนักเรียน 3,000 คน เป็นนักเรียนชาย 1,260 คน ที่เหลือเป็นนักหญิง โรงเรียนแห่งนี้มีนักเรียนหญิงคิดเป็นกี่เปอร์เซนต์
คำตอบคือข้อ ค.
นักเรียนหญิงมีจำนวน 3,000 – 1,260 = 1,740
นักเรียน 3,000คน จะคิดเป็น $100\%$
นักเรียนหญิง 1,740 คน จะคิดเป็น $\dfrac{1,740\times100}{3,000}= 58 \%$
ดังนั้น นักเรียนหญิงคิดเป็น 58%
ห้องเรียนหนึ่งมีนักเรียนชายเป็น $\dfrac{5}{7}$ ของนักเรียนทั้งห้อง ถ้าวันหนึ่งมีนักเรียนหญิงไม่มาร้อยละ 25 ของจำนวนนักเรียนหญิงทั้งหมด และนักเรียนชายมาเรียนร้อยละ 75 ของจำนวนนักเรียนชายทั้งหมด รวมนักเรียนไม่มาเรียน 14 คน แล้วห้องนี้มีนักเรียนชายมากกว่านักเรียนหญิงกี่คน (โรงเรียนบดินทรเดชา-Brush up your Brain 59”)
จากโจทย์นักเรียนชายไม่มา $ 100-75=25\%$ นักเรียนหญิงไม่มา $25\%$ แสดงว่านักเรียนทั้งชั้นไม่มา $25\%$
จากโจทย์ นักเรียนทั้งชั้นไม่มาทั้งหมด 14 คน = ร้อยละ 25
เทียบบัญญัติไตรยางค์
นักเรียนร้อยละ 25 คิดเป็นนักเรียนจำนวน 14 คน
นักเรียนร้อยละ 100 คิดเป็นนันกเรียนจำนวน $\dfrac{100\times14}{25}= 56$ คน
นักเรียนทั้งห้องมีจำนวน 56 คน
จากโจทย์ห้องเรียนนี้มีนักเรียนชาย $\dfrac{5}{7} $ แสดงว่ามีนักเรียนหญิง $\dfrac{2}{7}$
ดังนั้น นันกเรียนชายมากกว่านักเรียนหญิง $\dfrac{5}{7}-\dfrac{2}{7}=\dfrac{3}{7}$
ดังนั้น ห้องนี้มีนักเรียนชายมากกว่านักเรียนหญิง $\dfrac{3}{7}\times 56 = 24$ คน
นักศึกษาชั้นปี 1 จากมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งจำนวน 1,500 คน ซึ่ง 25 เปอร์เซนต์ เป็นนักศึกษาจากประเทศจีน และนักศึกษาชั้นปี 1 จากมหาวิทยาลัยอีกแห่งจำนวน 1,200 คน ซึ่ง 40 เปอร์เซนต์เป็นนักศึกษาจากประเทศจีน ข้อใดคือผลต่างของนักศึกษาจีนชั้นปีที่ 1 จาก 2 มหาวิทยาลัย
นักศึกษาชั้นปี 1 จากมหาวิทยาลัยแห่งที่หนึ่งมีนักศึกษาจีนจำนวน $\dfrac{25\times 1,500}{100}=375$ คน
นักศึกษาชั้นปี 1 จากมหาวิทยาลัยอีกแห่งมีนักศึกษาจีนจำนวน $\dfrac{40\times 1,200}{100}=480$ คน
ผลต่างของนักศึกษาจีนชั้นปีที่ 1 จาก 2 มหาวิทยาลัย $480-375= 105 $ คน
วิทยุราคา $4,000$ บาท ถ้าราคาลดลง $10 \%$ราคาใหม่คือข้อใด
คำตอบคือข้อ ค.
ถ้ากำหนดให้ราคาเดิม $100\%$ ถ้าลดราคา $10\%$ ราคาจะเหลือ $90\%$
ถ้าตั้งราคาที่ $100\%$ จะเป็นเงิน $4,000$ บาท
ถ้าตั้งราคาที่ $90\%$ จะเป็นเงิน $\dfrac{90\times4,000}{100}= 3,600$ บาท
บริษัทมียอดขายเพิ่มขึ้น $45 \%$ ของยอดขายปีที่แล้ว ถ้าปีที่แล้วมียอดขาย $1,500,000$ บาท ปีนี้บริษัทมียอดขายกี่บาท
คำตอบคือข้อ ง.
บริษัมมียอดขายเพิ่มขึ้น $45 \%$ ของ 1,500,000 บาท ดังนั้นบริษัมมียอดขายเพิ่มขึ้น
$\dfrac{45}{100}\times1,500,000 = 675,000$ บาท
ปีนี้บริษัมมียอดขายเป็นเงิน: $1,500,000+ 675,000 = 2,175,000$ บาท
ปีนี้บริษัทมีรายได้ลดลงจากปีก่อน $5\%$ ถ้าปีที่แล้วบริษัทมีรายได้ $3,000,000$ บาท ปีนี้บริษัทมีรายได้กี่บาท
คำตอบคือข้อ ข.
บริษัทมีรายได้ลดลง $5\%$ ของ $3,000,000$ บาท ดังนั้นบริษัทมีรายได้ลดลง
$\dfrac{5}{100}\times 3,000,000 = 150,000$ บาท
ปีนี้บริษัทมีรายได้
$3,000,000- 150,000= 2,850,000$ บาท
ไบค์ซื้อหมวกราคา $700$ บาท ขายต่อให้บอสได้กำไร $25\%$ บอสซื้อหมวกใบนี้ในราคาเท่าใด
คำตอบคือข้อ ง.
กำไร $25\%$ หมายความว่า ถ้าซื้อหมวกมา $100$ บาทจะขายได้กำไร $25$ บาท
ถ้าซื้อหมวกราคา $100$ บาท จะขายได้กำไร $25$ บาท
ถ้าซื้อหมวกราคา $700$ บาท จะขายได้กำไร $\dfrac{75\times 25}{100} = 175 $ บาท
บอสซื้อหมวกมาในราคา $700 + 175 = 875$ บาท
แบงค์มีบัตรสมาชิกร้านอาหารซึ่งให้ส่วนลด $15\%$ แคชเชียร์เรียกเก็บเงินแบงค์จำนวน $1,200$ บาทก่อนส่วนลด หลังแสดงบัตรส่วนลดแบงค์ต้องชำระเงินกี่บาท
คำตอบคือข้อ ก.
ส่วนลด $15 \%$ หมายความว่า ถ้าซื้อของมา $100$ บาทจะได้ส่วนลด $15$ บาท
ถ้าค่าอาหาร $100$ บาท จะได้ส่วนลด $15$ บาท
ถ้าค่าอาหาร $1,200$ บาท จะได้ส่วนลด $\dfrac{1,200\times 15}{100}= 180$ บาท
ดังนั้นแบงค์ต้องชำระเงินเป็นจำนวน $1,200-180= 1,020$ บาท
หนูนาขายกระโปรงราคา $465$ บาท ได้กำไร $50\%$ หนูนาซื้อกระโปรงมาในราคากี่บาท
คำตอบคือข้อ ง.
กำไร $50\%$ หมายความว่า ซื้อมา $100$ บาท ได้กำไร $50$ บาท แสดงว่าขายในราคา $150$ บาท
ถ้าขายในราคา $150$ บาท จะซื้อมาในราคา $100$ บาท
ถ้าขายในราคา $465$ บาท จะซื้อมาในราคา $\dfrac{465\times 100}{150}=310$ บาท
นิดขายตู้เย็น $6,240$ บาท ขายขาดทุนร้อยละ $4$ นิดซื้อตู้เย็นราคากี่บาท
คำตอบคือข้อ ข.
ขาดทุน $4\%$ หมายความว่า ซื้อมา $100$ บาท ขาดทุน $4$ บาท แสดงว่าขายในราคา $96$ บาท
ถ้าขายในราคา $96$ บาท จะซื้อมาในราคา $100$ บาท
ถ้าขายในราคา $6,240$ บาท จะซื้อมาในราคา $\dfrac{6,240\times100}{96}= 6,500$ บาท
เอ๋ซื้อรองเท้าคู่ละ $1,400$ บาท ขายต่อให้ดีนได้กำไร $5\%$ ดีนใส่แล้วไม่ชอบจึงขายต่อให้ปลื้มในราคาที่ขาดทุน $10\%$ ของราคาที่ซื้อมา ปลื้มซื้อมาในราคาคู่ละกี่บาท
คำตอบคือข้อ ก.
ขายได้กำไร $5\%$ หมายความว่า ถ้าซื้อ $100$ บาท ขายได้ในราคา $105$ บาท
ถ้าซื้อมาในราคา $100$ บาท จะขายในราคา $105$ บาท
ถ้าซื้อมาในราคา $1,400$ บาท จะขายในราคา $\dfrac{1,400\times105}{100}=1,470$ บาท
ดังนั้น ดีนซื้อรองเท้าในราคา $1,470$ บาท และขายต่อขาดทุน $10\%$
ขาดทุน $10\%$ คือ ซื้อมา $100$ บาท ขายไป $90$ บาท ขาดทุน $10$ บาท
ถ้าซื้อมาในราคา $100$ บาท จะขายในราคา $90$ บาท
ถ้าซื้อมาในราคา $1,470$ บาท จะขายในราคา $\dfrac{1,470\times90}{100}=1,323$ บาท
ร้านค้าแห่งหนึ่งติดราคาขายกางเกงตัวละ $960$ บาท ก็จะขาดทุน $20 \%$ ถ้าต้องการกำไร $16\%$ จะต้องติดราคากี่บาท
คำตอบคือข้อ ค.
หาราคาทุนหรือราคาซื้อ
ขาดทุน $20 \%$ หมายความว่า ถ้าซื้อมา $100$ บาท ขายขาดทุน $20$ บาท ดังนั้นราคาขายคือ $80$ บาท
ราคาขาย $80$ บาท จากราคาทุน $100$ บาท
ราคาขาย $960$ บาท จากราคาทุน $\dfrac{960\times100}{80}= 1,200$ บาท
ราคาทุนของกางเกงเท่ากับ $1,200$ บาท ต้องการขายให้ได้กำไร $16\%$
กำไร $16\%$ หมายความ ถ้าซื้อมา $100$ บาท จะขายในราคา $116$ บาท
ราคาทุน $100$ บาท จะขายในราคา $116$ บาท
ราคาทุน $1,200$ บาท จะขายในราคา $\dfrac{1,200\times116}{100}=1,392$ บาท
มนัสกู้เงินธนาคารมา $25,000$ บาท เสียดอกเบี้ยร้อยละ $7$ ต่อปี ถ้ามนัสต้องการชำระเงินพร้อมดอกเบี้ยภายใน 6 เดือน มนัสต้องชำระทั้งหมดเท่าใด
คำตอบคือข้อ ข.
จากโจทย์มนัสกู้เงิน และจะต้องเสียดอกเบี้ยร้อยละ $7$ ต่อปี หมายความว่า ถ้ากู้เงินมา $100$ บาท ดอกเบี้ยที่ต้องชำระ $7$ บาท ต่อปี
ถ้ากู้เงินมา $100$ บาท ดอกเบี้ยที่ต้องชำระต่อปีคือ $7$ บาท
ถ้ากู้เงินมา $25,000$ บาท ดอกเบี้ยที่ต้องชำระต่อปีคือ $\dfrac{25,000\times7}{100}=1,750$ บาท
มนัสกู้เงินมา $25,000$ บาทต้องชำระดอกเบี้ย $1,750$ บาทต่อปี แต่ในโจทย์บอกว่ามนัสต้องการชำระภายใน $6$ เดือน ดังนั้น ดอกเบี้ยของ 6 เดือนคือ $1,750\div 2 = 875$ บาท
ดังนั้น มนัสต้องชำระทั้งหมด $25,000+875= 25,875$ บาท
ซันกู้เงินธนาคาร $45,000$ บาท เสียดอกเบี้ยร้อยละ $7.5$ ต่อปี ถ้าซันต้องการชำระเงินพร้อมดอกเบี้ยภายใน $4$ เดือน ซันต้องชำระทั้งหมดเท่าใด
คำตอบคือข้อ ก.
จากโจทย์ซันกู้เงิน และจะต้องเสียดอกเบี้ยร้อยละ $7.5$ ต่อปี หมายความว่า ถ้ากู้เงินมา $100$ บาท ดอกเบี้ยที่ต้องชำระ $7.5$ บาท ต่อปี
ถ้ากู้เงินมา $100$ บาท ดอกเบี้ยที่ต้องชำระต่อปีคือ $7.5$ บาท
ถ้ากู้เงินมา $45,000$ บาท ดอกเบี้ยที่ต้องชำระต่อปีคือ $\dfrac{45,000\times7.5}{100} = 3,375$ บาท
ซันกู้เงินมา $45,000$ บาทต้องชำระดอกเบี้ย $3,375$ บาทต่อปี แต่ในโจทย์บอกว่าซันต้องการชำระภายใน $4$ เดือน ดังนั้น
ถ้ากู้เป็นเวลา $12$ เดือน ($1$ ปี) ดอกเบี้ยที่ต้องชำระคือ $3,375$ บาท
ถ้ากู้เป็นเวลา 4 เดือน ดอกเบี้ยที่ต้องชำระคือ$\dfrac{4\times3,375}{12}= 1,125$ บาท
ดังนั้น ซันต้องชำระทั้งหมด $45,000 +1,125 =46,125 $ บาท
ลีเดียฝากเงินจำนวน $200,000$ บาทกับธนาคารโดยเลือกฝากประจำ $6$ เดือน โดยธนาคารให้ดอกเบี้ย $1.75\%$ ต่อปี เมื่อครบ $6$ เดือน ลีเดียจะได้รับเงินคืนพร้อมเงินต้นเป็นจำนวนเท่าใด
คำตอบคือข้อ ข.
ดอกเบี้ยที่ธนาคารให้ $1.75 \%$ หมายความว่า ถ้าฝากเงิน $100$ บาท ธนาคารจะให้ดอกเบี้ย $1.75$ บาทต่อปี
ถ้าฝากเงิน $100$ บาท ดอกเบี้ยที่ได้รับต่อปีคือ $1.75 $ บาท
ถ้าฝากเงิน $200,000$ บาท ดอกเบี้ยที่ได้รับต่อปีคือ $\dfrac{200,000\times 1.75}{100}=3,500$ บาท
ถ้าฝากครบ $12$ เดือนจะได้รับดอกเบี้ย $3,500$ บาท แต่ลีเดียฝาก $6$ เดือนดังนั้นจะได้รับดอกเบี้ย $3,500\div2 =1,750$ บาท
ดังนั้นเมื่อครบ $6$ เดือนลีเดียจะได้รับเงินคืนพร้อมเงินต้น $200,000 + 1,750 = 201,750 $ บาท