| เวลาเที่ยงวัน | เวลาเช้าและเย็น | |
|---|---|---|
| มุมที่แสงอาทิตย์ตกกระทบพื้นโลก | มุมฉาก | มุมเฉียง |
| ระยะทางที่แสงอาทิตย์ส่องผ่านชั้นบรรยากาศ | สั้น | ไกลกว่า |
| ความเข้มแสง | เข้มกว่า เนื่องจากมุมตกกระทบเป็นมุมฉากและระยะทางที่แสงอาทิตย์ส่องผ่านบรรยากาศก็สั้นกว่า | เข้มน้อยกว่า เนื่องจากมุมตกกระทบเป็นมุมเฉียง และแสงอาทิตย์เดินทางผ่านชั้นบรรยากาศนานกว่า ความเข้มของแสงจึงถูกชั้นบรรยากาศกรองให้ลดลง |
| ความชื้นสัมบูรณ์ | ความชื้นสัมพัทธ์ |
|---|---|
| 1.เป็นการบอกปริมาณไอน้ำที่มีอยู่ในอากาศปริมาตร 1 ลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม) ที่อุณหภูมิหนึ่งๆ | 1.เป็นการบอกปริมาณไอน้ำที่มีอยู่ในอากาศจริงเทียบกับปริมาณไอน้ำที่จะทำให้อากาศอิ่มตัวที่อุณหภูมิเดียวกัน |
| 2.วัดเป็น มวลของไอน้ำต่อปริมาตรอากาศ | 2.วัดเป็น % |
3.ตัวอย่างเช่น ความชื้นสัมบูรณ์ที่ 10 กรัมต่อลบ.ม หมายถึง ถ้านำเรานำอากาศมาปริมาตร 1 ลบ.ม มานับจำนวนไอน้ำจะมีไอน้ำอยู่ 10 กรัม
|
3.ตัวอย่างเช่น ความชื้นสัมพัทธ์ที่ 50% หมายถึง อากาศมีปริมาณไอน้ำอยู่ที่ครึ่งหนึ่งของปริมาณไอน้ำที่อากาศรับได้ |
| 4.อากาศที่อุณหภูมิสูงจะสามารถรับไอน้ำได้มากกว่า อากาศที่มีอุณหภูมิต่ำ | 4.อากาศอิ่มตัว คือ อากาศที่มีความชื้นสัมพัทธ์ 100% |
| 5.ความชื้นสัมพัทธ์ที่เรารู้สึกสบายตัวอยู่ที่ 60% | |
| 6.ความชื้นสัมพันธ์ที่น้อยกว่า 60% จะรู้สึกแห้ง | |
| 7.ความชื้นสัมพัทธ์ที่มากกว่า 60% จะรู้สึกเหนียวตัวอึดอัด |
ในเวลากลางวัน ดินดูดความร้อนเร็วกว่าน้ำ อุณหภูมิเหนือดินจะสูงกว่าอุณหภูมิเหนือน้ำ ทำให้อากาศไหลจากทะเลสู่บนบก เรียกว่า “ลมทะเล”
ในเวลากลางคืน ดินคายความร้อนเร็วกว่าน้ำ อุณหภูมิเหนือดินจะต่ำกว่าอุณหภูมิเหนือน้ำ ทำให้อากาศไหลจากบนบกสู่ทะเล เรียกว่า “ลมบก”
ในเวลากลางวัน ยอดเขาได้รับแสงแดดมากกว่าในหุบเขาทำให้มีอุณหภูมิสูงกว่าอากาศจึงพัดจากหุบเขาขึ้นไปยังยอดเขาเรียกว่า “ลมหุบเขา”
ในเวลากลางคืน ยอดเขาจะเย็นกว่าหุบเขา อากาศจึงพัดจากยอดเขาไปสู่หุบเขา เรียกว่า “ลมภูเขา
คือ ลมที่พัดเปลี่ยนทิศไปตามฤดูกาล
ลมประจำฤดูมี 2 ชนิด คือ
| ชนิด | ความเร็ว |
|---|---|
| ดีเปรสชั่น | มีความเร็วลมไม่เกิน 33 นอต หรือไม่เกิน 61 กิโลเมตรต่อชั่วโมง |
| พายุโซนร้อน | มีความเร็วลมระหว่าง 34-64 นอต หรือ 62-117 กิโลเมตรต่อชั่วโมง |
| ไต้ฝุ่น หรือเฮอริเคน | มีความเร็วลมมากกว่า 64 นอต หรือ 118 กิโลเมตรต่อชั่วโมง |